เหล็กรูปพรรณ คือ คำ เรียกเหล็กชนิดหนึ่ง ที่ผ่านกระบวนการผลิตและแปรรูป เป็นรูปทรงต่างๆ ให้เหมาะสมกับการทำงานแต่ละประเภท และช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในด้านการใช้งาน ทั้งงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ งานโครงสร้าง งานศิลปะ ซึ่งสามารถจำแนกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้ คือ เหล็กรูปพรรณรีดร้อน และ เหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น ซึ่งแต่ละประเภทจะมีลักษณะที่ต่างกันค่ะ
เหล็กรูปพรรณรีดร้อน (Hot rolled structural steel) คือ เหล็กที่ผ่านกระบวนการหลอม และหล่อขึ้นรูปเป็นเหล็กแท่งในขั้นต้น จากนั้นใช้ความร้อนเพื่อทำการรีด ตอนที่เหล็กยังมีอุณหภูมิสูง เพื่อให้ได้หน้าตัดและขนาดต่างๆ
การใช้งานของเหล็กรูปพรรณรีดร้อน นิยมใช้ในงานโครงสร้างอาคาร งานสถาปัตยกรรม สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี ซึ่งเหมาะทั้งงานโครงสร้างอาคารที่มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่
เหล็กรูปพรรณรีดร้อนที่ใช้กันบ่อยๆ เช่น
- เหล็กฉาก(Angle Bar)
- เหล็กรางน้ำ(Channel Bar)
- เหล็กไอบีม(I-Beam)
- เหล็กเอชบีม(H-Beam)
- เหล็กไวแฟรงค์(wide-Flange)
- เหล็กเพลาขาว(Steel Round Bar)
- เหล็กแบน(Flat Bar)
- เหล็กเส้นเส้นก่อสร้าง(Round Bar)
- เหล็กเส้นข้ออ้อย(Deformed Bar)
เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดเย็น (Cold formed structural steel) คือกระบวนการพับขึ้นรูปเหล็กกล้าที่มีลักษณะเป็นแผ่นในอุณหภูมิปกติ ซึ่งวัตถุดิบในการขึ้นรูปคือ เหล็กแผ่นรีดร้อนหรือเหล็กแผ่นชุบสังกะสี ซึ่งได้แก่
- เหล็กตัวซี (LIGHT LIP CHANNEL)
- ท่อกลมดำ (CARBON STEEL TUBES)
- เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมจตุรัส (CARBON STEEL SQUARE PIPES)
- เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า (CARBON STEEL RECTANGULAR PIPES)
- ท่อเหล็กอาบสังกะสี (GALVANIZED STEEL PIPES)
- ท่อเฟอร์นิเจอร์ (STEEL FURNITURE ROUND PIPES)
- ท่อกลม API (AHTM A 53)
- เหล็กฉากพับ (COLD FORMED CHANNEL)
- เหล็กรางพับ (COLD FORMED CHANNEL)
การนำไปใช้งานของเหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น นิยมใช้กันมากในงานโครงสร้าง โครงหลังคา ต่างๆ แทนการใช้ไม้ หรืองานที่รองรับน้ำหนักไม่มากนัก เช่น โครงหลังคา งานนั่งร้าน เป็นต้น
ข้อดีของเหล็กรูปพรรณ
- มีกำลังต่อน้ำหนักสูง เหมาะในการก่อสร้างอาคารที่มีระยะช่วงที่ยาวมากๆ และอาคารสูง
- มีสมบัติทางกลสม่ำเสมอ สามารถออกแบบงานสถาปัตยกรรมได้หลากหลาย เช่น ดัดโค้ง ทำโครงสร้างโปร่ง หรือทำส่วนยื่นได้มาก
- มีความยืดหยุ่นสูง ลดการเสียรูปอย่างถาวร
- มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ถ้าดูแลเหมาะสมและถูกต้อง
- ก่อสร้างได้ง่าย และรวดเร็ว กว่างานคอนกรีตมาก
- ก่อสร้างในที่จำกัดได้สะดวก ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะผุ่น
- สามารถรับแรงสั่นสะเทือนและแผ่นดินไหวได้ดีกว่าโครงสร้างระบบอื่น
- ดัดแปลง ต่อเติม หรือรื้อไปสร้างใหม่ได้ ไม่ต้องทุบทิ้ง
- สามารถนำวัสดุมาหมุนเวียนได้ 100%